ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
1. พยัญชนะ : โลกโดยพยัญชนะ : คือ สิ่งที่ต้องแตกเป็นธรรมดา.
2. อรรถะ : โลกโดยอรรถะ :
2.1 อรรถะในทางรูปธรรม :
1. คือตัวแผ่นดินโลกตามที่เห็นกันอยู่หรือเชื่อกันอยู่ว่าเป็นอย่างนั้นๆ; มีหลายโลก เชื่อกันกระทั่งว่า มีนิริยโลก, เทวโลก, พรหมโลก.
2. นิยมแบ่งกันเป็นโลกมนุษย์ โลกสัตว์.
2.2 อรรถะในทางนามธรรม :
ได้แก่ สิ่งทั้งหลายที่มาปรากฏแก่ตา, หู, จมูก, ลิ้น, กาย, ใจ ที่เรียกว่า อารมณ์ 6.
2.3 อรรถะในทางปรมัตถ์ :
1. ตรัสว่า ความทุกข์นั่นแหละคือโลก.
2. โลกนี้เป็นเพียงกระแสแห่งปฏิจจสมุปบาท ไม่มีตัวจริง.
3. โลกนี้เป็นเพียงความรู้สึกที่เกิดขึ้นด้วยอวิชชา อุปาทาน.
4. โลกนี้คือที่ประชุมรวมของสิ่งที่เป็นมายา โดยความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา.
3. ไวพจน์ : โลกโดยไวพจน์ : คือ ภพ, วิญญาณฐิติ, โลกธาตุ, จักรวาล ฯลฯ
4. องค์ประกอบ : โลกโดยองค์ประกอบ :
4.1 ทางรูปธรรม : ธาตุทั้ง 6 : ดิน, น้ำ, ลม, ไฟ, อากาศ, วิญญาณ.
4.2 ทางนามธรรม : อายตนะภายใน, อายตนะภายนอก.
4.3 ทางความหมายปรมัตถ์ : ตัณหา, อารมณ์ของตัณหา และความทุกข์ซึ่งเป็นผล.
5. ลักษณะ : โลกโดยลักษณะ : มีลักษณะ :
5.1 เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา.
5.2 แห่งการหลอกลวงว่าเป็นตัวตน.
6. อาการ : โลกโดยอาการ : มีอาการ :
6.1 เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุตามปัจจัยอยู่เนืองนิจ.
6.2 เคลื่อนไปหาความแตกดับ.
7. ประเภท : โลกโดยประเภท :
7.1 แบ่งโดยประเภทสอง :
กลุ่มที่ 1 :
1. โลกข้างใน (โลกภายใน).
2. โลกข้างนอก.
กลุ่มที่ 2 :
1. โลกฝ่ายวัตถุ เรียกว่ารูป.
2. โลกฝ่ายจิตใจ เรียกว่านาม.
กลุ่มที่ 3 :
1. โลกนี้.
2. โลกอื่น (ภาวะที่ผิดไปจากโลกนี้).
กลุ่มที่ 4 :
1. โลกในภาษาคน.
2. โลกในภาษาธรรม.
7.2 แบ่งโดยประเภทสาม : โลกฝ่ายนามธรรม :
กลุ่มที่ 1 :
1. กามโลก.
2. รูปโลก.
3. อรูปโลก.
กลุ่มที่ 2 :
1. โลกที่มีวิภาคตามลักษณะของอายตนะ มี 6 : คือ โลกที่ปรากฏทางตา, ทางหู, ทางจมูก, ทางลิ้น, ทางกาย, ทางใจ.
2. โลกที่มีวิภาคตามลักษณะของตัณหา มี 3 : คือ โลกสำหรับสัตว์ผู้มีกามตัณหา, ผู้มีภวตัณหา, ผู้มีวิภวตัณหา.
3. โลกที่มีวิภาคตามลักษณะแห่งภูมิของจิต มี 4 : คือ โลกสำหรับสัตว์ผู้ตั้งอยู่ในกามาวจรภูมิ, ผู้ตั้งอยู่ในรูปาวจรภูมิ, ผู้ตั้งอยู่ในอรูปาวจรภูมิ, ผู้ตั้งอยู่ในโลกุตตรภูมิ.
ฯลฯ
8. กฎเกณฑ์ : โลกโดยกฎเกณฑ์ :
8.1 โลกคือโลกิยะมีกฎเกณฑ์ตรงกันข้ามกับโลกุตตระ.
8.2 โลกมีกฎเกณฑ์ที่ต้องเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย.
8.3 สิ่งที่เรียกว่าโลกจะมีความสมบูรณ์ ก็ต่อเมื่อมีแผ่นดินโลก มีสัตว์โลก และคุณค่าของสิ่งนั้นๆ.
9. สัจจะ : โลกโดยสัจจะ :
9.1 โลก, เหตุให้เกิดโลก, ความดับแห่งโลก, ทางให้ถึงความดับแห่งโลกนี้, มีอยู่ในร่างกายที่ยาววาหนึ่ง ที่ยังมีสัญญาและใจ.
9.2 โลกคือทุกสิ่งที่มากระทบทางตา, หู, จมูก, ลิ้น, กาย, ใจ โลกเกิดตับอยู่ตลอดเวลา.
9.3 สัตว์โลกมีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น เครื่องหุ้มห่อให้ไม่รู้จักโลก.
9.4 โลก (สัตว์โลก) มีจิตเป็นผู้นำ.
9.5 โลกทั้งปวงว่างจากสิ่งที่ควรยึดถือว่าตัวตนและของตน.
9.6 ฆราวาสหรือบรรพชิตก็สามารถปฏิบัติเพื่อดับโลกได้.
10. หน้าที่ : โลกโดยหน้าที่ :
10.1 หน้าที่โดยตรง : คือ การแตกดับตลอดเวลา.
10.2 หน้าที่ (โดยอ้อม) ของแผ่นดินโลก : คือ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์โลก.
10.3 หน้าที่ของมนุษย์ต่อโลก : คือ :
1. ศึกษาโลก, รู้จักโลก, อยู่ในโลกโดยไม่ต้องเป็นทุกข์.
2. ตอบแทนคุณโลก.
11. อุปมา : โลกโดยอุปมา : เปรียบเสมือน :
11.1 โรงละคร ซึ่งมีมนุษย์เป็นผู้แสดงโดยไม่ต้องฝึกต้องสอน.
11.2 บทเรียนซึ่งจะต้องศึกษาและปฏิบัติอย่างถูกต้องต่อสิ่งที่เรียกว่าโลก.
11.3 เครื่องทดสอบของพญามาร คือ มีปัญหายุ่งยากที่จะต้องผ่านไปให้ได้.
11.4 ร่มไม้สำหรับพักในระหว่างทาง.
11.5 ทางผ่านที่แสนจะทุรกันดาร คือ เต็มไปด้วยปัญหาที่จะต้องผ่านไปให้ได้.
11.6 มหาสมุทรเป็นที่รวมแห่งปลาโง่ คือ ชาวโลก.
11.7 กรงไก่ที่เขาใส่ไก่ไว้สำหรับจะเอาไปฆ่า แล้วโง่จนจิกกันเองอยู่ในกรง (โลก).
12. สมุทัย : โลกโดยสมุทัย :
12.1 แผ่นดินโลกมีกฎของธรรมชาติเป็นสมุทัย.
12.2 สัตว์โลกมีอวิชชา ตัณหา อุปาทานเป็นสมุทัย.
12.3 โลกที่เป็นภาวะของจิต มีตัณหาเป็นสมุทัย.
13. อัตถังคมะ : โลกโดยอัตถังคมะ :
13.1 ความดับไปตามคราวเพราะขาดเหตุปัจจัยตามธรรมดาของสังขารธรรมหรือสังขตธรรมทั้งหลาย.
13.2 ความไร้ศีลธรรมหรือความเห็นแก่ตัวของสัตว์โลกเป็นไปถึงที่สุด.
13.3 สำหรับโลกคือภาวะแห่งจิต มีอัตถังคมะ คือ ความสิ้นไปแห่งกิเลสอาสวะ.
14. อัสสาทะ : โลกโดยอัสสาทะ :
14.1 มีสำหรับปุถุชนในรูปของกามคุณ 5A54 ไม่มีสำหรับพระอริยเจ้า.
14.2 ในความหมายพิเศษสำหรับนักปราชญ์ โลกเป็นอัสสาทะในการศึกษาอย่างไม่รู้จบสิ้น.
14.3 สำหรับแผ่นดิน โลกมีอัสสาทะแก่นักขุดค้นทรัพยากร; เพื่อนำมาผลิตสำหรับความร่ำรวย.
15. อาทีนวะ : โลกโดยอาทีนวะ : อาทีนวะมีเฉพาะแก่ผู้เข้าไปยึดถือโลก ด้วยอุปาทาน ว่าตัวตนว่าของตน ; แต่ไม่มีแก่ผู้ไม่ยึดถือ.
16. นิสสรณะ : โลกโดยนิสสรณะ : ทางออกจากโลกสำหรับมนุษย์ : ไม่ยึดมั่นถือมั่นด้วยความเป็นตัวตน โดยการปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ 8 เป็นต้น.
17. ทางปฏิบัติ : โลกโดยทางปฏิบัติ :
17.1 ศึกษาโลกให้รู้จักโลกตามความเป็นจริงว่า ยึดถือว่าเป็นตัวตนของตนไม่ได้.
17.2 ดำรงชีวิตอยู่ด้วยอริยมรรคมีองค์ 8 ไม่ยึดถือโดยความเป็นตัวตน แต่ใช้โลกให้เป็นประโยชน์ตามที่ต้องการได้.
17.3 มีโลกในลักษณะเป็นของยืมใช้ชั่วคราว แล้วต้องส่งคืนเจ้าของ (ปฏินิสสัคคะ).
18. อานิสงส์ : โลกโดยอานิสงส์ : อานิสงส์จากโลกโดยตรงไม่มี ; มีแต่อานิสงส์ของการปฏิบัติต่อโลกอย่างถูกต้อง จนมีประโยชน์แก่การดำรงชีวิต, แต่ก็ต้องไม่มีความยึดมั่นถือมั่นอยู่นั่นเอง.
19. หนทางถลำ : โลกโดยหนทางถลำ :
19.1 เข้าไปเมาโลก จมโลก : คือ ไม่มีสติ, ปัญญา, สัมปชัญญะ, สมาธิ, เท่าที่ควรมี เพราะคบคนพาล.
19.2 ออกมาจากโลก : คือ มีสติ, ปัญญา, สัมปชัญญะ, สมาธิ, อย่างเพียงพอ เพราะคบบัณฑิต.
20. สิ่งที่ต้องเกี่ยวข้อง : โลกโดยสิ่งที่ต้องเกี่ยวข้อง : เพื่อการออกจากโลก :
20.1 ความรู้จักโลกจนไม่หลงโลก.
20.2 ความมีสติในการรับอารมณ์.
21. ภาษาคน - ภาษาธรรม : โลกโดยภาษาคน - ภาษาธรรม :
21.1 ภาษาคน : โลกคือแผ่นดินโลก.
ภาษาธรรม : โลกคืออารมณ์ที่มากระทบตา, หู, จมูก, ลิ้น, กาย, ใจ.
21.2 ภาษาคน : โลกมีอยู่ตลอดเวลา.
ภาษาธรรม : โลกเกิดดับอยู่ตลอดเวลา.
21.3 ภาษาคน : โลกคือสิ่งสวยงามวิจิตรตระการตา.
ภาษาธรรม : โลกคือสิ่งที่มีไฟลุกอยู่เป็นนิจ.
21.4 ภาษาคน : โลกนี้น่ารัก; โลกนี้น่าเกลียด.
ภาษาธรรม : โลกนี้เป็นเช่นนั้นเอง.
21.5 ภาษาคน : โลกนี้เป็นของจริง.
ภาษาธรรม : โลกนี้เป็นมายา.
ธรรมโฆษณ์ที่แนะนำให้อ่าน
1. กข กกา ของการศึกษาพุทธศาสนา
2. ราชภโฏวาท
3. สันทัสเสตัพพธรรม