[Font : 15 ]
| |
เบญจขันธ์ ไม่เที่ยง |  

ภิกษุ ท .! รูป เปนของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นโดยอยางอื่นได;

ภิกษุ ท .! เวทนา เปนของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นโดยอยางอื่นได;

ภิกษุ ท .! สัญญา เปนของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นโดยอยางอื่นได;

ภิกษุ ท .! สังขารทั้งหลาย เปนของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นโดยอยางอื่นได;

ภิกษุ ท .! วิญญาณ เปนของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นโดยอยางอื่นได;

- ขนฺธ. สํ. 17/281/478

"ขาแตพระองค ผูเจริญ ! คนกลาวกันวา 'สมุทยธรรม สมุทยธรรม (มีความกอขึ้นเปนธรรมดา) ดังนี้, ก็สมุทยธรรมนั้น เปนอยางไรเลา ? พระเจาขา !"

ราธะ ! รูป เป็นสมุทยธรรม , เวทนา เป็นสมุทยธรรม, สัญญา เปนสมุทยธรรม, สังขารทั้งหลาย เปนสมุทยธรรม, และวิญญาณ เปนสมุทยธรรม แล.

"ขาแตพระองคผูเจริญ! คนกลาวกันวา 'วยธรรม วยธรรม (มีความเสื่อมเปนธรรมดา)' ดังนี้, ก็วยธรรมนั้น เปนอยางไรเลา ? พระเจาขา !"

ราธะ ! รูป เปนวยธรรม , เวทนา เปนวยธรรม , สัญญา เปนวยธรรม, สังขารทั้งหลาย เปนวยธรรม , และวิญญาณ เปนวยธรรมแล.

"ขาแตพระองคผูเจริญ ! คนกลาวกันวา 'นิโรธธรรม, นิโรธธรรม, (มีความดับเปนธรรมดา)’ ดังนี้, ก็นิโรธธรรมนั้น เปนอยางไรเลา ? พระเจาขา !”

ราธะ ! รูป เปนนิโรธธรรม , เวทนา เปนนิโรธธรรม , สัญญา เปนนิโรธธรรม , สังขารทั้งหลาย เปนนิโรธธรรม , และวิญญาณ เปนนิโรธธรรม แล

- ขนฺธ. สํ. 17/241-242/387, ขนฺธ. สํ. 17/241-242/386, ขนฺธ. สํ. 17/241-242/388.

ภิกษุ ท .! รูปไมเที่ยง, สิ่งใด ไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็นทุกข, สิ่งใด เปนทุกข สิ่งนั้น เปนอนัตตา, สิ่งใด เปนอนัตตา พึงเห็น สิ่งนั้น ดวยปญญาอันชอบ ตามที่เปนจริง อยางนี้วา "นั่นไมใชของเรา, นั่นไมใชเรา, นั่นไมใชตัวตนของเรา" ดังนี้;

ภิกษุ ท .! เวทนา ไมเที่ยง, สิ่งใด ไมเที่ยง สิ่งนั้น เปน ทุกข, สิ่งใด เปน ทุกข สิ่งนั้น เปนอนัตตา, สิ่งใด เปนอนัตตา พึงเห็น สิ่งนั้นดวยปญญาอันชอบ ตามที่เปนจริง. อยางนี้วา "นั่น ไมใชของเรา, นั่นไมใชเรา, นั่น ไมใชตัวตนของเรา" ดังนี้;

ภิกษุ ท .! สัญญา ไมเที่ยง, สิ่งใด ไมเที่ยง สิ่งนั้น เปน ทุกข, สิ่งใด เปนทุกข สิ่งนั้น เปนอนัตตา, สิ่งใด เปนอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ดวยปญญาอันชอบ ตามที่เปนจริง อยางนี้วา "นั่น ไมใชของเรา, นั่น ไมใชเรา, นั่น ไมใชตัวตนของเรา" ดังนี้;

ภิกษุ ท .! สังขารทั้งหลาย ไมเที่ยง, สิ่งใด ไมเที่ยง สิ่งนั้นเปนทุกข, สิ่งใดเปน ทุกข สิ่งนั้น เปนอนัตตา, สิ่งใด เปนอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ดวยปญญาอันชอบ ตามที่เปนจริงอยางนี้วา "นั่น ไมใชของเรา, นั่น ไมใชเรา, นั่น ไมใชตัวตนของเรา" ดังนี้;;

ภิกษุ ท.! วิญญาณ ไมเที่ยง, สิ่งใด ไมเที่ยง สิ่งนั้น เปนทุกข, สิ่งใดเปนทุกข สิ่งนั้น เปนอนัตตา, สิ่งใด เปนอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ดวยปญญาอันชอบ ตามที่เปนจริงอยางนี้วา "นั่น ไมใชของเรา, นั่น ไมใชเรา, นั่นไมใชตัวตนของเรา" ดังนี้ แล.

- ขนฺธ. สํ. 17/28/42.


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

  |     |   แจ้งข้อผิดพลาด / แนะนำ
หนังสือที่เกี่ยวข้อง