[Font : 15 ]
| |
ครั้งมีพระชาติเป็น พระเจ้ามฆเทวราช |  

อานนท์! ความคิดอาจมีแก่เธอว่า `ผู้อื่นต่างหากที่เป็นพระเจ้ามฆเทวราชในสมัยโน้น'. อานนท์! เธอไม่ควรเห็นเช่นนั้น, เรานี่เองได้เป็นพระเจ้ามฆเทวราชแล้วในสมัยนั้น...

อานนท์! เรื่องดึกดำบรรพ์ที่เมืองมิถิลานี้ มีพระราชานามว่า พระเจ้ามฆเทวะ เป็นธรรมราชาผู้ตั้งอยู่ในธรรม ประพฤติราชธรรม ในพราหมณ์และคหบดี ทั้งในเมืองหลวงและชนบท, ย่อมเข้าอยู่อุโบสถในวันที่ 14 หรือ 15 และวันที่ 8 แห่งปักษ์. พระเจ้ามฆเทวะนั้น เรียกช่างกัลบกมาแล้วสั่งว่า `เพื่อน! ท่านเห็นผมหงอกเกิดขึ้นที่ศรีษะเราเมื่อใดก็จงบอกเรานั้น'.

อานนท์! ล่วงมานับด้วยปีเป็นอันมาก ช่างกัลบกนั้นได้เห็นผมหงอกแล้วกราบทูลให้ทรงทราบ.พระเจ้ามฆเทวะรับสั่งให้ถอนหงอกด้วยแหนบแล้ววางใส่ฝ่าพระหัตถ์ให้ทอดพระเนตร. ครั้งทอดพระเนตรเห็นแล้ว พระราชทานบ้านส่วนเป็นบำเหน็จแก่ช่างกัลบกนั้น. รับสั่งให้หาพระราชบุตรองค์ใหญ่มาเฝ้าแล้วตรัสว่า `แน่ะพ่อกุมาร! เทวทูตปรากฎแก่เราแล้ว : หงอกเกิดบนศรีษะแล้ว. กามอันเป็นวิสัยของมนุษย์ เราได้บริโภคเสร็จแล้ว เดี๋ยวนี้ถึงสมัยอันควรเพื่อการแสวงกามอันเป็นทิพย์สืบไป. มาเถอะพ่อผู้กุมาร! เจ้าจงครองตำแหน่งพระราชานี้. ส่วนเราจะปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้าย้อมฝาดออกบวชจากเรือนไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือนไป. อนึ่ง ถ้าเจ้าเห็นหงอกเกิดขึ้นที่ศรีษะของเจ้าเมื่อใด, เมื่อนั้นจงประทานบ้าน ส่วยเป็นบำเหน็จแก่ช่างกัลบกแล้วชี้แจงมอบหมายตำแหน่งพระราชาแก่ราชบุตรองค์ใหญ่ให้ดี, แล้วจงปลงผมและหนวด ครองผ้าย้อมฝาดออกบวชจากเรือน ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือนไปเถิด. เจ้าจงประพฤติตามกัลยาณวัตรอันนี้ ตามที่เราได้บัญญัติไว้แล้ว, เจ้าอย่าเป็นบุรุษคนสุดท้ายของเรา. กัลยาณวัตรอันนี้ ขาดตอนลงในยุคของผู้ใด ผู้นั้นชื่อว่าเป็นคนสุดท้าย แห่งบุรุษทั้งหลาย ผู้ประพฤติตามกัลยาณวัตรของเรา. แน่ะพ่อผู้กุมาร! เราขอกล่าวถึงวัตรนั้น กะเจ้าในบัดนี้ อย่างนี้ว่า เจ้าจงประพฤติตามกัลยาณวัตรนี้ ตามที่เราได้บัญญัติไว้แล้ว ขอเจ้าจงอย่าเป็นบุรุษคนสุดท้ายของเราเลย'.

อานนท์! ครั้นพระเจ้ามฆเทวะ ประทานบ้านส่วนแก่ช่างกัลบกมอบหมายรัชชสมบัติแก่พระราชบุตรองค์ใหญ่เป็นอย่างดีแล้ว ก็ปลงผมและหนวดครองผ้าย้อมฝาด บวชแล้วจากเรือน ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือน ในป่ามฆเทวัมพวันนี้เอง. เธอผู้บวชแล้วนั้น แผ่ความรู้สึกด้วยจิตอันประกอบด้วยเมตตาไปยังทิศที่ 1, และทิศที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 โดยอาการอย่างเดียวกัน. ด้วยเหตุนี้เป็นอันว่าเธอมีจิตประกอบด้วยเมตตาอย่างไพบูลย์เยี่ยมยอด หาที่เปรียบมิได้ปราศจากเวรและพยาบาท แผ่ไปทั่วโลกทั้งปวง เพราะแผ่ทั่วไปทั้งในเบื้องบนเบื้องล่าง และเบื้องขวางโดยรอบ. เธอนั้น มีจิตประกอบด้วยกรุณา ...มุทิตา ...อุเบกขา ฯลฯ แผ่ไปทั่งโลกทั้งปวง เพราะแผ่ทั่วไปทั้งในเบื้องบน เบื้องล่างและเบื้องขวางโดยรอบแล้วแลอยู่แล้ว. ...เธอบวชแล้วประพฤติพรหมจรรย์อยู่ในป่ามฆเทวัมพวันนี้เอง. ครั้นทำพรหมวิหารธรรมทั้ง 4 ให้เจริญแล้ว ก็เข้าถึงพรหมโลก ภายหลังจากการตาย เพราะการทำลายแห่งกาย. ...ฯลฯ...

อานนท์! เราแล ได้เป็นพระเจ้ามฆเทวะแล้วในสมัยนั้น. อนุชนที่เกิดในภายหลัง ได้ประพฤติตามกัลยาณวัตร ที่เราตั้งไว้แล้ว แต่ว่า กัลยาณวัตรนั้นจะเป็นไปพร้อมเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับสนิท ความรำงับ ความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม และนิพพาน ก็หาไม่; เป็นไปเพียงเพื่อเข้าถึงพรหมโลกเท่านั้น.

อานนท์! ก็แต่ว่า กัลยาณวัตรที่เราบัญญัติไว้แล้วในกาลนี้แล ย่อมเป็นไปพร้อมเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับสนิท ความรำงับ ความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม และนิพพาน ได้โดยท่าเดียว. กัลยาณวัตรนั้นคือ อริยมรรคมีองค์ 8 ได้แก่ ความเห็นชอบ ดำริชอบ พูดชอบ การงานชอบ ดำรงชีพชอบ เพียรชอบ ระลึกชอบ ตั้งใจมั่นชอบ, ดังนี้.

- บาลี มฆเทวสูตร ม.ม. 13/415/453. ตรัสแก่พระอานนท์ ที่มฆเทวัมพวัน ใกล้กรุงมิถิลา.


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

  |     |   แจ้งข้อผิดพลาด / แนะนำ
หนังสือที่เกี่ยวข้อง