[Font : 15 ]
| |
ทรงแก้ข้อที่ถูกเขาหาว่า ทรงหลง |  

"พระโคดมผู้เจริญ! พระโคดมยังจำการนอนหลับกลางวันได้อยู่หรือ?" สัจจกะทูลถาม.

อัคคิเวสนะ! เรายังจำได้อยู่, ในเดือนสุดท้ายของฤดูร้อน กลับจากบิณฑบาตในเวลาหลังอาหารแล้ว ให้ปูสังฆาฎิเป็น 4 ชั้น เรามีสติสัมปชัญญะหยั่งลงสู่ความหลับ โดยตะแคงข้างขวา.

"พระโคดมผู้เจริญ! ข้อนี้แหละ สมณะและพราหมณ์ทั้งหลายบางพวกเขากล่าวว่า พระสมณโคดมหลับ เพราะการเป็นอยู่ด้วยความหลง".

อัคคิเวสนะ! คนเราจะชื่อว่าเป็นคนหลงหรือไม่หลง เพราะเหตุเพียงเท่านี้ ก็หาไม่. แต่ว่า จะเป็นคนหลงหรือไม่หลงโดยเหตุใดนั้น ท่านจงกำหนดในใจให้ดี เราจะกล่าวให้ฟัง :

อัคคิเวสนะ! อาสวะเหล่าใดที่ทำผู้นั้นให้เศร้าหมองพร้อม เป็นไปเพื่อความเกิดอีกประกอบด้วยความทุรนทราย มีทุกข์เป็นผล ทำให้มีชาติชรามรณะอีกสืบไป, เมื่อผู้ใดละมันไม่ได้ เรากล่าวว่าผู้นั้นเป็นคนหลง, เมื่อผู้ใดละได้ขาด เรากล่าวว่าผู้นั้นเป็นคนไม่หลง เพราะว่าจะเป็นผู้ไม่หลงได้ ก็เพราะการละอาสวะได้ขาด. อัคคิเวสนะ! อาสวะทั้งหลายเหล่านั้น เป็นสิ่งที่ตถาคตละได้ขาดแล้ว ถอนขึ้นได้ กระทั่งราก ทำให้เป็นเหมือนตาลไม่มีวัตถุ (คือหน่อยอดสำหรับงอกอีกต่อไป) ไม่ให้มีไม่ให้เกิดได้อีกต่อไป ดุจว่าต้นตาลถูกตัดที่คอแห่งต้นแล้ว ไม่อาจงอกได้สืบไป ฉันใดก็ฉันนั้น.

- บาลี มหาสัจจกสูตร มู.ม. 12/461/430. ตรัสแก่สัจจกะนิครนถบุตร อัคคิเวสนะ ที่ป่ามหาวัน ใกล้เมืองเวสาลี.


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

  |     |   แจ้งข้อผิดพลาด / แนะนำ
หนังสือที่เกี่ยวข้อง