ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
ภิกษุ ท.! ในกาลยืดยาวฝ่ายอนาคต จักมีภิกษุทั้งหลาย ซึ่งมิได้อบรมกาย มิได้อบรมศีล มิได้อบรมจิต และมิได้อบรมปัญญา, เธอทั้งหลาย ทั้งที่เป็นเช่นนั้นอยู่ จักเป็นอุปัชฌายะให้อุปสมบทคนอื่นๆ แล้ว จักไม่อาจแนะนำฝึกสอนคนเหล่านั้น ในศีลอันยิ่ง ในสมธิอันยิ่ง และในปัญญาอันยิ่ง, แม้คนบวชแล้วเหล่านั้น ก็จักเป็นผู้มิได้อบรมกาย มิได้รับอบรมศีล มิได้รับอบรมจิต และมิได้อบรมปัญญา, เธอทั้งหลาย ทั้งที่เป็นเช่นนั้นอยู่ จักเป็นอุปัชฌายะให้อุปสมบท (ต่อจากอุปัชฌายะแรก) สืบๆ ไป, จักไม่อาจแนะนำฝึกสอนผู้บวชแล้วทั้งหลาย ในศีลอันยิ่งในสมาธิอันยิ่ง และในปัญญาอันยิ่งได้; คนบวชทั้งหลายเหล่านั้น ก็จักเป็นผู้มิได้อบรมกาย มิได้อบรมศีล มิได้อบรมจิต และมิได้อบรมปัญญา อย่างเดียวกัน. ภิกษุ ท.! ด้วยอาการอย่างนี้เอง วินัยมีมลทิน เพราะธรรมมีมลทิน; ธรรมมีมลทิน เพราะวินัยมีมลทิน. นี้ เป็นอนาคตภัยที่ยังไม่เกิดขึ้นในบัดนี้ แต่จักเกิดขึ้นในเวลาต่อไป. พวกเธอทั้งหลายพึงสำนึกไว้ ครั้นได้สำนึกแล้ว ก็พึงพยายามเพื่อกำจัดภัยนั้นเสีย. เพราะธรรมีมลทิน, ธรรมมีมลทิน เพราะวินัยมีมลทิน. นี้เป็นอนาคตภัยที่ยังไม่เกิดขึ้นในบัดนี้ แต่จักเกิดขึ้นในเวลาต่อไป. พวกเธอทั้งหลายพึงสำนึกไว้ ครั้นได้สำนึกแล้ว ก็พึงพยายามเพื่อกำจัดภัยนั้นเสีย.
- บาลี พระพุทธภาษิต ปญฺจก. อํ. 22/121/79, ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย