[Font : 15 ]
| |
เนื้อนาบุญ เกิดจากการพิจารณาเห็นธรรม |  

ภิกษุ ท.! บุคคล 7 จำพวกเหล่านี้ เป็นผู้ควรแก่ของบูชา ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า. 7 จำพวกอะไรบ้างเล่า? 7 จำพวก คือ:-

ภิกษุ ท.! บุคคลบางคนในกรณีนี้ มีปรกติพิจารณาเห็นความไม่เที่ยง ในสังขารทั้งหลายทั้งปวงเป็นอยู่ มีความกำหนดหมายในความไม่เที่ยงอยู่เป็นประจำ กำหนดรู้พร้อมเฉพาะในความไม่เที่ยง เป็นผู้ฝังใจอย่างติดต่อสม่ำเสมอไม่ขาดตกบกพร่องในความไม่เที่ยง ถือเอารอบอยู่ (ซี่งธรรมนั้น) ด้วยปัญญา; บุคคลนั้น ได้กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตต อันหาอาสวะมิได้ เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่. ภิกษุ ท.! นี่แล เป็นบุคคลแรก ซึ่งเป็นผู้ควรแก่ของบูชา ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.

ภิกษุ ท.! ข้อต่อไปนี้คือ บุคคลบางคนในกรณีนี้ มีปรกติพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงในสังขารทั้งหลายทั้งปวงเป็นอยู่ มีความกำหนดหมายในความไม่เที่ยงอยู่เป็นประจำ กำหนดรู้พร้อมเฉพาะในความไม่เที่ยง เป็นผู้ฝังใจอย่างติดต่อสม่ำเสมอ ไม่ขาดตกบกพร่องในความไม่เที่ยง ถือเอารอบอยู่ (ซึ่งธรรมนั้น) ด้วยปัญญา; อนึ่ง ความสิ้นอาสวะ และความสิ้นชีวิต ของบุคคลนั้น มีขึ้นไม่ก่อนหลังกว่ากัน (คือมรณภาพพร้อมกับความสิ้นอาสวะ). ภิกษุ ท.! นี่แลเป็นบุคคลที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ควรแก่ของบูชา ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.

ภิกษุ ท.! ข้อต่อไปอีกคือ บุคคลบางคนในกรณีนี้ มีปรกติพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงในสังขารทั้งหลาย ทั้งปวงเป็นอยู่ มีความกำหนดหมายในความไม่เที่ยงอยู่เป็นประจำ กำหนดรู้พร้อมเฉพาะในความไม่เที่ยง เป็นผู้ฝังใจอย่างติดต่อสม่ำเสมอ ไม่ขาดตกบกพร่องในความไม่เที่ยง ถือเอารอบอยู่ (ซึ่งธรรมนั้น) ด้วยปัญญา; บุคคลนั้น เพราะความสิ้นไปรอบแห่งสัญโญชน์เบื้องต่ำ 5 เป็นอันตราปรินิพพายีบุคคล.024.2 ภิกษุ ท.! นี่แลเป็นบุคคลที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ควรแก่ของบูชา ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.

ภิกษุ ท.! ข้อต่อไปอีกคือ บุคคลบางคนในกรณีนี้ มีปรกติพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงในสังขารทั้งหลาย ทั้งปวงเป็นอยู่ มีความกำหนดหมายในความไม่เที่ยงอยู่เป็นประจำ กำหนดรู้พร้อมเฉพาะในความไม่เที่ยง เป็นผู้ฝังใจอย่างติดต่อสม่ำเสมอ ไม่ขาดตกบกพร่องในความไม่เที่ยง ถือเอารอบอยู่ (ซึ่งธรรมนั้น) ด้วยปัญญา; บุคคลนั้น เพราะความสิ้นไปรอบแห่งสัญโญชน์เบื้องต่ำ 5 เป็นอุปหัจจปรินนพายีบุคคล.024.3 ภิกษุ ท.! นี่แลเป็นบุคคลที่ 4 ซึ่งเป็นผู้ควร แก่ของบูชา ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.

ภิกษุ ท.! ข้อต่อไปอีกคือ บุคคลบางคนในกรณีนี้ มีปรกติพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงในสังขารทั้งหลาย ทั้งปวงเป็นอยู่ มีความกำหนดหมายในความไม่เที่ยงอยู่เป็นประจำ กำหนดรู้พร้อมเฉพาะในความไม่เที่ยง เป็นผู้ฝังใจอย่างติดต่อสม่ำเสมอ ไม่ขาดตกบกพร่องในความไม่เที่ยง ถือเอารอบอยู่ (ซึ่งธรรมนั้น) ด้วยปัญญา; บุคคลนั้น เพราะความสิ้นไปรอบแห่งสัญโญชน์เบื้องต่ำ 5 เป็นอสังขารปรินิพพายีบุคคล.024.4 ภิกษุ ท.! นี่แลเป็นบุคคลที่ 5 ซึ่งเป็นผู้ควร แก่ของบูชา ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.

ภิกษุ ท.! ข้อต่อไปอีกคือ บุคคลบางคนในกรณีนี้ มีปรกติพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงในสังขารทั้งหลาย ทั้งปวงเป็นอยู่ มีความกำหนดหมายในความไม่เที่ยงอยู่เป็นประจำ กำหนดรู้พร้อมเฉพาะในความไม่เที่ยง เป็นผู้ฝังใจอย่างติดต่อสม่ำเสมอ ไม่ขาดตกบกพร่องในความไม่เที่ยง ถือเอารอบอยู่ (ซึ่งธรรมนั้น) ด้วยปัญญา; บุคคลนั้น เพราะความสิ้นไปรอบแห่งสัญโญชน์เบื้องต่ำ 5 เป็นสสังขารปรินิพพายีบุคคล.024.5 ภิกษุ ท.! นี่แลเป็นบุคคลที่ 6 ซึ่งเป็นผู้ควร แก่ของบูชา ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.

ภิกษุ ท.! ข้อต่อไปอีกคือ บุคคลบางคนในกรณีนี้ มีปรกติพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงในสังขารทั้งหลาย ทั้งปวงเป็นอยู่ มีความกำหนดหมายในความไม่เที่ยงอยู่เป็นประจำ กำหนดรู้พร้อมเฉพาะในความไม่เที่ยง เป็นผู้ฝังใจอย่างติดต่อสม่ำเสมอ ไม่ขาดตกบกพร่องในความไม่เที่ยง ถือเอารอบอยู่ (ซึ่งธรรมนั้น) ด้วยปัญญา; บุคคลนั้น เพราะความสิ้นไปรอบแห่งสัญโญชน์เบื้องต่ำ 5 เป็น ผู้มีกระแสเบื้องบนไปสู่อกนิฏฐภพ.024.6 ภิกษุ ท.! นี่แลเป็นบุคคลที่ 7 ซึ่งเป็นผู้ควร แก่ของบูชา ควรแก่ของต้อนรับควรแก่ของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.

(อีกสูตรหนึ่ง)024.7

ภิกษุ ท.! บุคคล 7 จำพวกเหล่านี้ เป็นผู้ควรแก่ของบูชา ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ของทำบุญควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า. 7 จำพวกอะไรบ้างเล่า? 7 จำพวก คือ:-

ภิกษุ ท.! บุคคลบางคนในกรณีนี้ มีปรกติพิจารเห็นความเป็นทุกข์ ในสังขารทั้งหลายทั้งปวง เป็นอยู่. ---ฯลฯ---(ข้อความต่อไปของสูตรนี้เป็นไปทำนองเดียวกันกับสูตรก่อน ผิดกันแต่สูตรนี้ กล่าวถึงความเป็นทุกข์ แทนที่จะกล่าวถึงความไม่เที่ยง, ผู้อ่านอาจเติมข้อความให้เต็มไปด้วยตนเอง โดยใส่คำว่า "ความเป็นทุกข์" แทนคำว่า "ความไม่เที่ยง" เท่านั้น จึงไม่เรียงไว้ตลอดทั้งสูตร ในที่นี้).

(อีกสูตรหนึ่ง024.7

ภิกษุ ท.! บุคคล 7 จำพวกเหล่านี้ เป็นผู้ควรแก่ของบูชา ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า. 7 จำพวกอะไรบ้างเล่า? 7 จำพวก คือ:-

ภิกษุ ท.! บุคคลบางคนในกรณีนี้ มีปรกติพิจารณาเห็นความเป็นอนัตตาในธรรมทั้งหลายทั้งปวงเป็นอยู่. ---ฯลฯ---(ข้อความต่อไปของสูตรนี้ ก็เป็นไปทำนองเดียวกับสูตรแรก ผิดกันแต่สูตรนี้ กล่าวถึงความเป็นอนัตตา แทนที่จะกล่าวถึงความไม่เที่ยง และความเป็นทุกข์, ผุ้อ่านอาจเติมข้อความให้เต็มได้ ด้วยตนเอง จึงไม่เรียงไว้ตลอดทั้งสูตร).

(อีกสูตรหนึ่ง)024.7

ภิกษุ ท.! บุคคล 7 จำพวกเหล่านี้ เป็นผู้ควรแก่ของบูชา ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า. 7 จำพวกอะไรบ้างเล่า? 7 จำพวก คือ:-

ภิกษุ ท.! บุคคลบางคนในกรณีนี้ มีปรกติพิจารณาเห็นความเป็นสุขในนิพพานเป็นอยู่ มีความกำหนดหมายในความเป็นสุขอยู่เป็นประจำ กำหนดรู้พร้อมเฉพาะในความเป็นสุข เป็นผู้ฝังใจอย่างติด่อสม่ำเสมอ ไม่ขาดตกบกพร่อง ในความเป็นสุข ถือเอารอบอยู่ (ซึ่งธรรมนั้น) ด้วยปัญญา ; บุคคลนั้นได้กระทำให้แจ้ง ซึ่งเจโตวิมุตติปัญญาวิมุมตติอันหาอาสวะมิได้ เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่. ภิกษุ ท.! นี่แล เป็นบุคคลแรกซึ่งเป็นผู้ควรแก่ของบูชา ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นเนื่อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.

ภิกษุ ท.! ข้อต่อไปอีกคือ บุคคลบางคนในกรณีนี้ มีปรกติพิจารณา เห็นความเป็นสุขในนิพพานเป็นอยู่ มีความกำหนดหมายในความเป็นสุข อยู่เป็นประจำ กำหรดนู้พร้อมเฉพาะในความเป็นสุข เป็นผู้ฝังใจอย่างติดต่อ สม่ำเสมอ ไม่ขาดตกบกพร่องในความเป็นสุข ถือเอารอบอยู่ (ซึ่งธรรมนั้น) ด้วยปัญญา; อนึ่ง ความสิ้นอาสวะ และความสิ้นชีวิตของบุคคลนั้น มีขึ้นไม่ก่อนไม่หลังกว่ากัน (คือมรณภาพพร้อมกับความสิ้นอาสวะ). ภิกษุ ท.! นี่แล เป็นบุคคลแรกซึ่งเป็นผู้ควรแก่ของบูชา ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นเนื่อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.

ภิกษุ ท.! ข้อต่อไปอีกคือ บุคคลบางคนในกรณีนี้ มีปรกติพิจารณา เห็นความเป็นสุขในนิพพานเป็นอยู่ มีความกำหนดหมายในความเป็นสุข อยู่เป็นประจำ กำหรดรู้พร้อมเฉพาะในความเป็นสุข เป็นผู้ฝังใจ อย่างติดต่อ สม่ำเสมอ ไม่ขาดตกบกพร่องในความเป็นสุข ถือเอารอบอยู่ (ซึ่งธรรมนั้น) ด้วยปัญญา; บุคคลนั้น เพราะความสิ้นไปรอบแห่งสัญโญชน์เบื้องต่ำ 5 เป็นอันตราปรินิพพายีบุคคล---ที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ควรแก่ของบูชา---เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า; บุคคลนั้น เพราะความสิ้นไปรอบแห่งสัญโญชน์เบื้องต่ำ 5 เป็นอุปหัจจปรินิพพายีบุคคล,---ที่สี่ ซึ่งเป็นผู้ควรแก่ของบูชา---เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า; บุคคลนั้น เพราะความสิ้นไปรอบแห่งสัญโญชน์เบื้องต่ำ 5 เป็นอสังขารปรินิพพายีบุคคล, ---ที่ห้า ซึ่งเป็นผู้ควรแก่ของบูชา--- เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า; บุคคลนั้น เพราะความสิ้นไปรอบแห่งสัญโญชน์ เบื้องต่ำ 5 เป็นสสังขารปรินิพพายีบุคคล, ---ที่หก ซึ่งเป็นผู้ควรแก่ของบูชา---เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มมีนาบุญอื่นยิ่งกว่า; บุคคลนั้น เพราะความสิ้นไปรอบแห่งสัญโญชน์ เบื้องต่ำ 5 เป็นผู้มีกระแสในเบื้องบนไปสู่อกนิฏฐภพ. ภิกษุ ท.! นี่แล เป็นบุคคลที่เจ็ด ซึ่งเป็นผู้ควรแก่ของบูชา ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ของทำบุญ ควรทำ อัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.024.8

ภิกษุ ท.! บุคคล 7 จำพวกเหล่าแล เป็นผู้ควรแก่ของบูชา ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.

- บาลี พระพุทธภาษิต สตฺตก.อํ. 23/13/16, ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย.


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

  |     |   แจ้งข้อผิดพลาด / แนะนำ
หนังสือที่เกี่ยวข้อง