[Font : 15 ]
| |
ถุงลม |  

ภิกษุท.! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเล่าเรียนปริยัติธรรม (นานาชนิด) คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะคาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาติกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ, เธอใช้เวลาทั้งวันให้เปลืองด้วยการเรียนธรรมนั้น ต้องเริดร้างจากการหลีกเร้น ไม่ประกอบซึ่งธรรมเป็นเครื่องสงบใจในภายใน. ภิกษุนี้ เราเรียกว่า ผู้มากด้วยปริยัติ (นักเรียน) ยังมิใช่ธรรมวิหารี (ผู้อยู่ด้วยธรรม).

อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุแสดงธรรมตามที่ได้ฟังได้เรียนมา แก่คนอื่น โดยพิสดาร, เธอใช้เวลาทั้งวันให้เปลืองไปด้วยการบัญญัติธรรมนั้น ตอ้งเริดร้างจากการหลีกเร้น ไม่ประกอบซีงธรรมเป็นเครื่องสงบใจ ในภายใน. ภิกษุนี้ เราเรียกว่า ผู้มากด้วยการบัญญัติ (นักแต่ง) ยังมิใช่ธรรมวิหารี (ผู้อยู่ด้วยธรรม)

อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุทำการสาธยายธรรม ตามที่ได้เรียนได้ฟังมาโดยพิสดาร, เธอใช้เวลาทั้งวัน ให้เปลืองไปด้วยการสาธยายนั้น ต้องเริดร้างจากการหลีกเว้น ไม่ประกอบซึ่งธรรมเป็นเครื่องสงบใจในภายใน. ภิกษุนี้ เราเรียกว่า ผู้มากด้วยการสวด (นักสวด) ยังมิใช่ธรรมวิหารี (ผู้อยู่ด้วยธรรม)

อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุคิดพล่านไปในธรรม ตามที่ได้ฟังได้เรียนมา, เธอใช้เวลาทั้งวันให้เปลืองไป ด้วยการคิดพล่านในธรรมนั้น ต้องเริดร้างจากการหลีกเร้น ไม่ประกอบซึ่งธรรมเป็นเครื่องสงบในภายใน ภิกษุนี้เราเรียกว่า ผู้มากด้วยการคิด (นักคิด) ยังมิใช่ธรรมวิหารี (ผู้อยู่ด้วยธรรม)

- บาลี พระพุทธภาษิต ปญฺจก. อํ. 22/98/73, ตรัสแก่ภิกษุรูปหนึ่งซึ่งทูลถามเรื่องนี้.


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

  |     |   แจ้งข้อผิดพลาด / แนะนำ
หนังสือที่เกี่ยวข้อง