[Font : 15 ]
| |
สระน้ำที่อยู่ภายใต้จีวร |  

ภิกษุ ท.! ภิกษุ เป็นผู้ปฏิบัติในข้อปฏิบัติสมควรแก่สมณะ เป็นอย่างไรเล่า?

ภิกษุ ท.! เมื่อภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง มีอภิชฌามาก ละอภิชฌาได้, มีจิตพยาบาท ละพยาบาทได้, เป็นผู้มักโกรธ ละความมักโกรธได้, เป็นผู้มักถือความโกรธ ละความถือโกรธได้, เป็นผู้ลบหลู่คุณท่าน ละความลบหลู่คุณท่านได้, เป็นผุ้ยกตนเทียมท่าน ละความยกตนเทียมท่านได้, เป็นคนริษยา ละความริษยาได้, เป็นคนตระหนี่ ละความตระหนี่ได้, เป็นคนโอ้อวด ละความโอ้อวดได้, เป็นคนมีมายา ละความมีมายาได้, เป็นคนมีความปรารถนา ละความปรารถนาได้, เป็นคนมีความเห็นผิด ละความเห็นผิดได้;

ภิกษุ ท.! เพราะละกิเลสมีอภิชฌาเป็นต้น ซึ่งเป็นเครื่องมัวหมองของสมณะ เป็นโทษของสมณะ เป็นน้ำฝาดของสมณะ เป็นเหตุให้สัตว์เกิดในอบาย และมีวิบากอันสัตว์ทั้งหลายจะต้องเสวยในทุคติ เหล่านี้ ได้แล้ว; เราก็กล่าวภิกษุนั้นว่า "เป็นผู้ปฏิบัติข้อปฏิบัติสมควรแก่สมณะ" ดังนี้ ผู้ปฏิบัติชอบนั้น ย่อมพิจารณาเห็นตนเป็นคนบริสุทธิ์ และพ้นจากสิ่งที่เป็นอกุศลลามกทั้งหลาย เหล่านี้ทั้งสิ้นแล้ว,. เมื่อพิจารณาเห็นตนเป็นเช่นนั้นอยู่, ความปราโมทย์ก็เกิดขึ้น; เมื่อเธอปราโมทย์แบล้ว, ปีติก็เกิดขึ้น; เมื่อเธอมีสุข จิตก็ตั้งมั่น. ผู้ปฏิบัติชอบนั้น แผ่จิตไปสู่ทิศที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ทั้งเบื้องบนและเบองต่ำ ด้านขวาง ทั่วทุกทางโดยรอบตลอดโลกทั้งปวง ด้วยจิตอันประกอบด้วยเมตตา---ฯลฯ---กรุณา---ฯลฯ---มิทุตา---ฯลฯ---อุเบกขา อันไพบูลย์ ประกอบด้วยคุณอันใหญ่หลวง ไม่มีประมาณ ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาท เป็นอยู่.

ภิกษุ ท.! เปรียบเหมือน สระโบกขรณี มีน้ำไม่ขุ่นมัว น่าดื่ม เย็นสนิท ใสสะอาด มีท่าขึ้นลงโดยง่าย น่าเพลินใจ. ถ้าแม้มีบุรุษผู้หนึ่ง ซึ่งกำลังร้อนจัด มีความร้อนระอุไปทั้งตัว เหน็ดเหนื่อย คอแห้งระหายน้ำ มาจากทิศตะวัน หรือทิศตะวันตก ทิศเหนือ หรือทิศใต้ไซร์, บุรุษนั้นมาถึงสระโบกขรณีนั้นแล้ว จักทำความคอแห้ง ระหายน้ำ และความร้อนกระวนกระวายให้เสื่อมสูญได้. ข้อนี้ฉันใด; ภิกษุ ท.! ถ้าแม้กุลบุตรออกบวชจากเรือน เป็นผู้ไม่หวังประโยชน์เกี่ยวข้องด้วยเรือน จากสกุลกษัตริย์ก็ตาม, จากสกุลพราหมณ์ก็ตาม, จากสกุลเวสส์ก็ตาม, จากสกุลศูทรก็ตาม, และเขาได้อาศัยธรรมและวินัยอันตถาคตประกาศแล้ว เจริญเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา อย่างนี้ๆ ย่อมได้ความสงบในภายใน เราเรียกว่า "เป็นผู้ปฏิบัติข้อปฏิบัติสมควรแก่สมณะ" ดังนี้, ฉันนั้นเหมือนกัน.

ถ้าแม้นกุลบุตรอออกบวชจากเรือน เป็นผู้ไม่หวังประโยชน์เกี่ยวข้องด้วยเรือนจากสกุลกษัตริย์ก็ตาม, จากสกุลพราหมณ์ก็ตาม, จากสกุลเวสส์ก็ตาม, จากสกุลศูทรก็ตาม, และเขาได้ทำให้แจ้งเจโตวิมมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่ เราก็เรียกว่า "เป็นสมณะ" เพราะความสิ้นอาสวะทั้งหลาย, เช่นนั้น เหมือนกันแล.

- บาลี พระพุทธภาษิต จูฬอัสสปุรสุตร มู.ม. 12/561/482, ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายที่อัสสปุรนิคมของชาวอังคะ.


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

  |     |   แจ้งข้อผิดพลาด / แนะนำ
หนังสือที่เกี่ยวข้อง