[Font : 15 ]
| |
รู้เวทนาเพื่อดับเสียได้ ดีกว่ารู้เพื่อเป็นปัจจัยแก่ตัณหา |  

ภิกษุ ท. ! …. สมณพราหมณ์เหล่าใด เป็นปุพพันตกัปปิกวาท14.19 (บัญญัติทิฏฐิปรารภขันธ์ที่มีแล้วในกาลก่อน) ก็ดี เป็นอปรันตกัปปิกวาท (บัญญัติทิฏฐิปรารภขันธ์ที่มีในกาลเบื้องหน้า) ก็ดี เป็นปุพพันตาปรันตกัปปิกวาท (บัญญัติทิฏฐิปรารภขันธ์ที่เป็นปุพพันตะและอปรันตะ) ก็ดี ล้วนแต่เป็นผู้มีปุพพันตาปรันตานุทิฏฐิ (มีทิฏฐิไปตามขันธ์ที่มีในกาลก่อนและในกาลเบื้องหน้า) เขาปรารภขันธ์ที่เป็นปุพพันตะและอปรันตะแล้ว กล่าวอธิมุตติบท (ทางแห่งความน้อมใจเชื่อของสัตว์) มีอย่างต่าง ๆ กันเป็นอเนก ด้วยวัตถุ (ที่ตั้งแห่งทิฏฐิ) 62 ประการ ; สมณพราหมณ์เหล่านั้นทั้งหมด รู้สึกเสวยเวทนาตามทิฏฐิเฉพาะอย่าง ๆ ของตน ๆ ตามที่ถูกต้องแล้ว ๆ (ซึ่งอารมณ์) ด้วยผัสสายตนะ 6 ประการ. เพราะเวทนา (อันเกิดจากสัมผัสนั้น) ของสมณพราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้นเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา ; เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน ; เพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ ; เพราะมีภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ ; เพราะมีชาติเป็นปัจจัย จึงมีชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย (แก่สมณพราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้น).

ภิกษุ ท. ! ในกาลใดแล ภิกษุย่อม รู้ชัดตามที่เป็นจริง ซึ่งความเกิดขึ้น (สมุทัย) ซึ่งความตั้งอยู่ไม่ได้ (อัตถังคมะ) ซึ่งรสอร่อย (อัสสาทะ) ซึ่งโทษอันต่ำทราม (อาทีนวะ) ซึ่งอุบายเป็นเครื่องออกไปพ้น (นิสสรณะ) แห่งผัสสายตนะ 6 ประการ ; ภิกษุนี้ ชื่อว่าย่อม รู้ชัด (ซึ่งเรื่องอันเกี่ยวกับผัสสายตนะหกประการนั้น) ยิ่งกว่าสมณพราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้นทั้งหมดนั่นเทียว.

- สี. ที. 9/57/90.


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

  |     |   แจ้งข้อผิดพลาด / แนะนำ
หนังสือที่เกี่ยวข้อง