[Font : 15 ]
| |
อุปมาปรากฎแจ่มแจ้ง |  

ราชกุมาร ! เรื่องประหลาดเกิดมีแก่เรา : อุปมา 3 ข้อ เป็นอัศจรรย์ที่ไม่เคยได้ยินมาแล้ว มาแจ่มแจ้งแก่เรา.

(1) ราชกุมาร ! อุปมาข้อ 1 ว่า เหมือนไม้สดชุ่มด้วยยาง ทั้งเขาตัดลงแช่น้ำไว้, ถ้าบุรุษตั้งใจว่าเราจะนำไม้สีไฟอันบน มาสีกับไม้นั้นให้ไฟเกิดปรากฎดังนี้, ราชกุมาร ! ท่านจะเข้าใจว่าอย่างไร บุรุษนั้นจักถือไม้สีไฟอันบนมาสีไฟให้เกิดปรากฎขึ้นได้หรือไม่ ? "พระองค์ผู้เจริญ ! ไม่ได้เลย, เพราะเหตุว่าโน้นเป็นไม้สดชุ่มด้วยยาง ทั้งยังแช่อยู่ในน้ำ เขาสีตลอดกาลเพียงใด จักต้องเหน็ดเหนื่อย คับแค้นเปล่าเพียงนั้น". ราชกุมาร! ฉันใดก็ฉันนั้น สมณะหรือพราหมณ์พวกใด กายยังไม่หลีกออกจากวัตถุกาม ใจก็ยังระคนด้วยกิเลสกามอันทำความพอใจ ความเยื่อใยความเมาหมก ความกระหาย ความรุ่มร้อน ในวัตถุกามทั้งหลาย, เขายังละไม่ได้ยังรำงับไม่ได้ ซึ่งกิเลสกามอันเป็นภายในเหล่านั้น, ท่านสมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น ถึงจะได้เสวยทุกขเวทนาอันกล้าแข็งเผ็ดร้อน เพราะการทำความเพียรก็ดี หรือไม่ได้เสวยก็ดี ย่อมไม่ควรเพื่อเกิดปัญญารู้เห็นอันไม่มีปัญญาอื่นยิ่งไปกว่าได้เลย. ราชกุมาร ! นี่เป็นอุปมาทีแรกที่เป็นอัศจรรย์ที่เราไม่เคยได้ยินมาแล้วแต่ก่อน ได้มาแจ่มแจ้งแก่เราแล้ว.

(2) ราชกุมาร ! อุปมาข้อ 2 เป็นอัศจรรย์ที่เราไม่เคยได้ยินมาแล้ว ได้มาแจ่มแจ้งแก่เรา. ราชกุมาร ! อุปมาว่าไม้สดชุ่มด้วยยาง วางอยู่บนบก ไกลจากน้ำหากบุรุษตั้งใจว่า เราจักนำไม้สีไฟอันบนมาสีกับไม้นั้นให้ไฟเกิดปรากฏดังนี้, ท่านจัดเข้าใจว่าอย่างไร บุรุษนั้นจักถือเอาไม้สีไฟดันบนมาสีให้เกิดไฟปรากฎขึ้นได้หรือไม่? "พระองค์ผู้เจริญ ! ไม่ได้เลย, เพราะเหตุว่าโน้นเป็นไม้สดชุ่มด้วยยาง แม้วางอยู่บนบกก็จริง เขาจะสีไปตลอดกาลเพียงใด ก็จะเหน็ดเหนื่อยคับแค้นเปล่า ตลอดกาลเพียงนั้น". ราชกุมาร ! ฉันใดก็ฉันนั้น สมณะหรือพราหมณ์พวกใด มีกายหลีกออกจากวัตถุกามแล้ว แต่ใจยังระคนด้วยกิเลสกามอันทำความพอใจ ความเยื่อใย ความเมาหมกความกระหายความรุ่มร้อน ในวัตถุกามทั้งหลาย, เขายังละไม่ได้ ระงับไม่ได้ซึ่งกิเลสกามอันเป็นภายในเหล่านั้น, สมณะหรือพราหมณืเหล่านั้นจะได้เสวยทุกขเวทนาอันกล้าแข็งเผ็ดร้อน เพราะทำความเพียรก็ดี หรือไม่ได้เสวยก็ดี ก็ไม่ควรเพื่อจะเกิดปัญญารู้เห็นอันไม่มีปัญญาอื่นยิ่งไปกว่าได้เลย. ราชกุมาร ! นี่เป็นอุปมาที่ 2 ที่เป็นอัศจรรย์ อันเราไม่เคยได้ยินมาแล้วแต่ก่อน ได้มาแจ่มแจ้งแก่เราแล้ว.

(3) ราชกุมาร ! อุปมาข้อ 3 ที่เป็นอัศจรรย์อันเราไม่เคยได้ยินมาแล้ว มาแจ่มแจ้งแก่เรา. ราชกุมาร ! อุปมาว่าไม้แห้งสนิท ทั้งวางไว้บนบกไกลจากน้ำ, หากบุรุษตั้งใจว่าเราจักนำไม้สีไฟอันบนมาสีกับไม้นั้น ให้ไฟเกิดปรากฏขึ้น ดังนี้, ราชกุมาร ! ท่านจะเข้าใจว่าอย่างไร บุรุษนั้นจำนำไม้สีไฟอันบนมาสีกับไม้นั้นให้ไฟเกิดปรากฏขึ้นได้หรือไม่? "พระองค์ผู้เจริญ! ได้โดยแท้,เพราะเหตุว่าโน้นเป็นไม้แห้งเกราะ ทั้งอยู่บนบกไกลจากน้ำด้วย". ราชกุมาร! ฉันใดก็ฉันนั้น สมณะหรือพราหมณ์พวกใด มีกายละจากวัตถุกามแล้ว ทั้งใจก็ไม่ระคนอยู่ด้วยกิเลสกามอันทำความพอใจ ความเยื่อใย ความเมาหมก ความกระหาย ความรุ่มร้อน ในวัตถุกามทั้งหลาย, เขาเป็นผู้ละได้ ระงับได้ซึ่งกิเลสกามอันเป็นภายในเหล่านั้น. สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นจะได้เสวยทุกขเวทนาอันกล้าแข็งเผ็ดร้อนเพราะทำความเพียรก็ดี หรือไม่ได้เสวยก็ดี ย่อมควรเพื่อเกิดปัญญารู้เห็นอันไม่มีปัญญาอื่นยิ่งไปกว่า ได้. ราชกุมาร! นี่เป็นอุปมาที่ 3 ที่เป็นอัศจรรย์อันเรา ไม่เคยได้ยินมาแล้วแต่ก่อน ได้มาแจ่มแจ้งกะเราแล้ว.

- บาลี โพธิราชกุมารสูตร ราชวรรค ม.ม. 13/448/492. และ สคารวสูตร พราหมณวรรค ม.ม., มหาสัจจกสูตร มหายมกวรรค มู.ม.; ความตอนนี้ ปาสราสิสูนร มู.ม. ไม่มี.


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

  |     |   แจ้งข้อผิดพลาด / แนะนำ
หนังสือที่เกี่ยวข้อง