ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
ภิกษุ ท.! ภิกษุบริษัทมี 2 ชนิด. 2 ชนิดอะไรกันเล่า? 2 ชนิดคือ ภิกษุบริษัทที่หนักในอามิส แต่ไม่หนักในพระสัทธรรม หนึ่ง, ภิกษุ บริษัทที่หนักในพระสัทธรรม แต่ไม่หนักในอามิส หนึ่ง.
ภิกษุ ท.! ภิกษุบริษัทหนักในอามิส แต่ไม่หนักในพระสัทธรรม นั้นเป็นอย่างไรเล่า? ภิกษุ ท.! ในกรณีนี้ ภิกษุเหล่าใดกล่าวยกยอกันเองต่อหน้า คฤหัสถ์ผู้ครองเรือนว่า "ภิกษุรูปโน้น เป็นอริยบุคคลชนิด อุภโตภาควิมุตต์,012.1 รูปโน้น เป็นอริยบุคคลชนิด ปัญญาวิมุตต์012.2, รูปโน้น เป็นอริยบุคคลชนิด กายสักขี.012.3 รูปโน้น เป็นอริยบุคคลชนิด ทิฏฐิปปัตตะ,012.4 รูปโน้นเป็นอริยบุคคลชนิด สัทธาวิมุตต์,012.5 รูปโน้นเป็นอริยบุคคลชนิด ธีมมานุสารี,012.6 รูปโน้นเป็นอริยบุคคลชนิด สัทธานุสารี,012.7 รูปโน้นมีศีลมีการเป็นอยู่งดงาม, และรูปโน้น ทุศีลมีการเป็นอยู่เลวทราม" ดังนี้เป็น ต้น. ภิกษุเหล่านั้น ย่อมได้ลาภ เพราะการกล่าวยกยอกันนั้นเป็นเหตุ. ครั้นได้ลาภแล้ว ภิกษุพวกนั้นก็พากันติดอกติดใจในรสแห่งลาภ สยบอยู่ เมาหมกอยู่, ไม่มองเห็นส่วนที่เป็นโทษ ไม่เป็นผู้รู้แจ่มแจ้งใน อุบาย เป็นเครื่องออกไปจากทุกข์ ทำการบริโภคลาภนั้นอยู่
ภิกษุ ท.! ภิกษุบริษัทอย่างนี้แล เราเรียกว่า บริษัทที่หนักในอามิส แต่ไม่หนักในพระสัทธรรม
- บาลี พระพุทธภาษิต ทุก. อํ. 20/93/293