[Font : 15 ]
| |
ทรงมีคณะสงฆ์ซึ่งมีคุณธรรมสูงสุด |  

ภิกษุ ท.! ภิกษุบริษัทนี้ ไม่เหลวไหลเลย. ภิกษุ ท.! ภิกษุบริษัทนี้ไม่เหลวแหลกเลย. ภิกษุบริษัทนี้ ตั้งอยู่แล้วในธรรมที่เป็นสาระล้วน.

ภิกษุ ท.! บริษัทเช่นใด มีรูปลักษณะที่น่าบูชา น่าต้อนรับ น่ารับทักษิณาทาน น่าไหว้ เป็นเนื้อนาบุญชั้นดีเยี่ยมของโลก; หมู่ภิกษุนี้ก็มีรูปลักษณะเช่นนั้น, ภิกษุบริษัทนี้ ก็มีรูปลักษณะเช่นนั้น.

ภิกษุ ท.! บริษัทเช่นใด มีรูปลักษณะที่ทานอันบุคคลให้น้อย แต่กลับมีผลมาก ทานที่ให้มาก ก็มีผลมากทวียิ่งขึ้น; หมู่ภิกษุนี้ ก็มีรูปลักษณะเช่นนั้น,ภิกษุบริษัทนี้ ก็มีรูปลักษณะเช่นนั้น.

ภิกษุ ท.! บริษัทเช่นใด มีรูปลักษณะยากที่ชาวโลกจะได้เห็น; หมู่ภิกษุนี้ ก็มีรูปลักษณะเช่นนั้น, ภิกษุบริษัทนี้ ก็มีรูปลักษณะเช่นนั้น.

ภิกษุ ท.! บริษัทเช่นใด มีรูปลักษณะที่ควรจะไปดูไปเห็น แม้จะต้องเดินสิ้นหนทางนับด้วยโยชน์ๆ ถึงกับต้องเอาห่อสะเบียงไปด้วยก็ตาม; หมู่ภิกษุนี้ก็มีรูปลักษณะเช่นนั้น, ภิกษุบริษัทนี้ ก็มีรูปลักษณะเช่นนั้น.

ภิกษุ ท.! ในหมู่ภิกษุนี้ มีพวกภิกษุซึ่งเป็น พระอรหันต์ ผู้สิ้นอาสวะแล้ว ผู้อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว มีกิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว มีภาระปลงลงได้แล้วมีประโยชน์ของตนเองบรรลุแล้วโดยลำดับ มีสัญโญชน์ในภพสิ้นแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้ทั่วถึงโดยชอบ; พวกภิกษุแม้เห็นปานนี้ ก็มีอยู่ในหมู่ภิกษุนี้.

ภิกษุ ท.! ในหมู่ภิกษุนี้ มีพวกภิกษุซึ่งสิ้นสัญโญชน์เบื้องต่ำ 5 เป็นโอปปาติกะแล้ว จักปรินิพพานในที่นั้น ไม่เวียนกลับมาจากโกลนั้นเป็นธรรมดา;พวกภิกษุแม้เห็นปานนี้ ก็มีอยู่ในหมู่ภิกษุนี้.

ภิกษุ ท.! ในหมู่ภิกษุนี้ มีพวกภิกษุซึ่งสิ้นสัญโญชน์ 3 และมีความเบาบางไปของราคะ โทสะ โมหะ เป็น สกทาคามี มาสู่โลกนี้อีกครั้งเดียวเท่านั้นแล้วจักกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้; พวกภิกษุแม้เห็นปานนี้ ก็มีอยู่ในหมู่ภิกษุนี้.

ภิกษุ ท.! ในหมู่ภิกษุนี้ มีพวกภิกษุซึ่งสิ้นสัญโญชน์ 3 เป็นโสดาบันมีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา ผู้เที่ยงแท้ ผู้แน่ที่จะตรัสรู้ข้างหน้า; พวกภิกษุแม้เห็นปานนี้ ก็มีอยู่ในหมู่ภิกษุนี้.

ภิกษุ ท.! ในหมู่ภิกษุนี้ มีพวกภิกษุซึ่ง ประกอบความเพียรเป็นเครื่องต้องทำเนืองๆ ในการอบรมสติปัฏฐาน 4, สัมมัปปธาน 4, อิทธิบาท 4, อินทรีย์ 5,พละ 5, โพชฌงค์ 7, อริยมรรคมีองค์ 8, เมตตา, กรุณา, มุทิตา, อุเบกขา,อสุภ, อนิจจสัญญา และอานาปานสติ; พวกภิกษุแม้เห็นปานนี้ ก็มีอยู่ในหมู่ภิกษุนี้.

(ในบาลีแห่งอื่น มีคำกล่าวสรรเสริญคณะสงฆ์ทำนองเดียวกันนี้ ผิดกันแต่ในตอนท้ายแทนที่จะกล่าวว่ามีภิกษุผู้อรหันต์ ผู้อนาคามี สกทาคามี โสดาบัน และภิกษุผู้กำลังปฏิบัติอยู่เพื่อคุณธรรมเบื้องสูง มีอยู่ในหมู่สงฆ์นั้น เปลี่ยนไปตรัสว่า มีภิกษุผู้ถึงความเป็นเทพ (เพราะมีรูปฌานทั้ง 4) ภิกษุผู้ถึงความเป็นพรหม (เพราะมีพรหมวิหาร 4) ภิกษุผู้ถึงความเป็นอาเนญชา (เพราะมีอรูปฌานทั้ง 4) และภิกษุผู้ถึงความเป็นอริยะ (เพราะรู้ชัดตามเป็นจริงซึ่งอริยสัจสี่) -จตุกฺก. อํ.21/248/190.)

- บาลี มหาวาร. สํ. 19/191/284. ตรัสแก่ภิกษุ ท. ในวันเพ็ญเดือน 11 วันนั้นพระพุทธองค์ประทับนั่งกลางแจ้ง แวดล้อมด้วยหมู่ภิกษุ ทรงแลดูหมู่ภิกษุซึ่งล้วนแต่เป็นผู้สงบนิ่งเฉยอยู่, ณ ที่บุพพาราม มิคารมาตุปราสาท.


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

  |     |   แจ้งข้อผิดพลาด / แนะนำ
หนังสือที่เกี่ยวข้อง