[Font : 15 ]
| |
ผู้มีจิตอันหาขอบเขตมิได้ |  

ภิกษุ ท.! ตลอดกาลเพียงใด ที่สัตว์ทั้งหลาย ยังไม่ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริง ซึ่งรสอร่อย ของอุปาทานขันธ์ 5 เหล่านี้ โดยความเป็นรสอร่อย. ยังไม่ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริง ซึ่ง โทษของอุปาทานขันธ์ 5 โดยความเป็นโทษ, ยังไม่ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริง ซึ่ง อุบายออกพ้นไปได้จากอุปาทานขันธ์ 5 โดยความเป็นอุบายให้ออกพ้นไป;

ภิกษุ ท.! ตลอดกาลเพียงนั้น สัตว์ทั้งหลาย ก็ ยังไม่ชื่อว่าเป็นผู้ได้แล่นหลุดออกไป. ยังไม่ชื่อว่าป็นผู้ปราศจากเครื่องเกี่ยวเกาะหลุดพ้นแล้ว, ยังเป็นผู้มีใจอันอยูในขอบเขตโลกนี้ ขอบเขตเทวโลก มารโลก พรหมโลก. ยังอยู่ในขอบเขตของหมู่สัตว์ หมู่สมณะ หมู่พราหมณ์ และในขอบเขตของเหล่าเทวดาและมนุษย์ อยู่นั่นเอง.

ภิกษุ ท.! เมื่อใดแล สัตว์ทั้งหลาย มารู้ยิ่งตามเป็นจริงแล้ว ซึ่งรสอร่อย ของอุปาทานขันธ์ 5 โดยความเป็นรสอร่อย, ได้รูยิ่งตามเป็นจริง ซึ่ง โทษ ของอุปาทานขันธ์ 5 โดยความเป็นโทษ, ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริง ซึ่ง อุบายออกพ้นไปได้ จากอุปาทานขันธ์ 5 โดยความเป็นอุบายให้ออกพ้นไป;

ภิกษุ ท.! เมื่อนั้นแหละ สัตว์เหล่านั้น ชื่อว่าเป็นผู้ ได้แล่นหลุดออกไป เป็นผู้ปราศจากเครื่องเกี่ยวเกาะ หลุดพ้นแล้ว เป็นผู้มีใจอันหาขอบเขตมิได้ เป็นอยู่ในดลกนี้ ในเทวโลก มารโลก พรหมโลก, เป็นอยู่ในหมู่สัตว์ หมู่สมณะ หมู่พราหมณ์ ในเหล่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ดังนี้.

- ขนฺธ. สํ. 17/38/63.


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

  |     |   แจ้งข้อผิดพลาด / แนะนำ
หนังสือที่เกี่ยวข้อง