[Font : 15 ]
| |
3. ทุกขนิโรธอริยสัจ |  

ภิกษุ ท.! อริยสัจคือความดับไมเหลือแหงทุกข เปนอยางไรเลา ? คือความคลายคืนโดยไมมีเหลือและความดับไมเหลือ ความละวาง ความสละคืนความผานพน ความไมอาลัย ซึ่งตัณหานั้นนั่นเทียว.

ภิกษุ ท.! ก็ ตัณหานั้นเมื่อบุคคลจะละได ยอมละไดในที่ไหน? เมื่อจะดับ ยอมดับไดในที่ไหน ? สิ่งใดมีภาวะเปนที่รัก มีภาวะเปนที่ยินดีในโลก; ตัณหานั้นเมื่อบุคคลจะละ ย่อมละไดในสิ่งนั้น, เมื่อจะดับยอมดับไดในสิ่งนั้น. ก็อะไรเลามีภาวะเปนที่รัก มีภาวะเปนที่ยินดีในโลก ?

ตา….ห ู…จมูก....ลิ้น…กาย…ใจ…(แต่ละอยางทุกอยาง) มีภาวะเปนที่รัก มีภาวะเปนที่ยินดี ในโลก; ตัณหานี้ เมื่อจะละ ยอมละได ในที่นั่น,.เมื่อจะดับ ยอมดับไดในที่นั้น.

รูป ทั้งหลาย…เสียงทั้งหลาย…กลิ่น ทั้งหลาย…รสทั้งหลาย…โผฏฐัพพะทั้งหลาย…ธรรมารมณทั้งหลาย…(แตละอยางทุกอยาง) มีภาวะเปนที่รัก มีภาวะเปนที่ยินดีในโลก; ตัณหานี้ เมื่อจะละ ย่อมละได ในที่นั้น, เมื่อจะดับ ยอมดับไดในที่นั้น.

ความรูแจงทางตา…ความรูแจงทางหู…ความรูแจงทางจมูก…ความรูแจงทางลิ้น…ความรูแจงทางกาย…ความรูแจงทางใจ…(แตละอยางทุกอยาง) มีภาวะเปนที่รัก มีภาวะเปนที่ยินดี ในโลก; ตัณหานี้ เมื่อจะละยอมละไดในที่นั้น, เมื่อจะดับ ยอมดับไดในที่นั้น.

การกระทบทางตา…การกระทบทางหู…การกระทบทางจมูก…การกระทบทางลิ้น…การกระทบทางกาย…การการะทบทางใจ…(แตละอยางทุกอยาง) มีภาวะเปนที่รัก มีภาวะเปนที่ยินดีในโลก; ตัณหานี้ เมื่อจะละยอมละไดในที่นั้น, เมื่อจะดับ ยอมดับไดในที่นั้น.

ความรูสึกเกิดแตการกระทบทางตา…ความรูสึกเกิดแกการกระทบทางหู…ความรูสึกเกิดแตการกระทบทางจมูก…ความรูสึกเกิดแตการกระทบทางลิ้น…ความรูสึกเกิดแตการกระทบทางกาย…ความรูสึกเกิดแตการกระทบทางใจ…(แตละอยางทุกอยาง) มีภาวะเปนที่รัก มีภาวะเปนที่ยินดี ในโลก; ตัณหานี้ เมื่อจะละ ยอมละไดในที่นั้น, เมื่อจะดับ ยอมดับไดในที่นั้น.

ความจําหนายในรูป…ความจําหมายในเสียง…ความจําหมายในกลิ่น…ความจําหมายในรส…ความจําหมายในโผฏฐัพพะ…ความจําหมายในธรรมารมณ…(แตละอยางทุกอยาง) มีภาวะเปนที่รัก มีภาวะเปนที่ยินดีในโลก; ตัณหานี้ เมื่อจะละ ยอมละไดในที่นั้น, เมื่อจะดับ ยอมดับไดในที่นั้น.

ความนึก ถึงรูป…ความนึก ถึงเสียง…ความนึก ถึงกลิ่น…ความนึก ถึงรส…ความนึก ถึงโผฏฐัพพะ…ความนึก ถึงธรรมารมณ…(แตละอยางทุกอยาง) มีภาวะเปนที่รัก มีภาวะเปนที่ยินดี ในโลก; ตัณหานี้ เมื่อจะละยอมละไดในที่นั้น, เมื่อจะดับ ยอมดับไดในที่นั้น.

ความอยากในรูป…ความอยากในเสียง…ความอยากในกลิ่น….ความอยากในรส…ความอยากในโผฏฐัพพะ…ความอยากในธรรมารมณ… (แตละอยางทุกอยาง) มีภาวะเปนที่รัก มีภาวะเปนที่ยินดี ในโลก; ตัณหานี้เมื่อจะละ ยอมละไดในที่นั้น. เมื่อจะดับ ยอมดังไดในที่นั้น.

ความตริหารูป…ความตริหาเสียง…ความตริหากลิ่น…ความตริหารส…ความตริหาโผฏฐัพพะ…ความตริหาธรรมารมณ…(แตละอยางทุกอยาง) มีภาวะเปนที่รัก มีภาวะเปนที่ยินดี ในโลก; ตัณหานี้ เมื่อจะละยอมละไดในที่นั้น, เมื่อจะดับ ยอมดับไดในที่นั้น.

ความไตรตรองตอรูป (ที่ตริหาไดแลว)…ความไตรตรองตอเสียง…ความไตรตรองตอกลิ่น…ความไตรตรองตอรส…ความไตรตรองตอโผฏฐัพพะ…ความไตรตรองตอธรรมารมณ…(แตละอยางทุกอย่าง) มีภาวะเปนที่รัก มีภาวะเปน ที่ยินดี ในโลก; ตัณหานี้ เมื่อจะละ ยอมละไดในที่นั้น, เมื่อจะดับ ยอมดับไดในที่นั้น.

ภิกษุ ท.! นี้เราเรียกวาอริยสัจคือ ความดับไมเหลือแหงทุกข.


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

  |     |   แจ้งข้อผิดพลาด / แนะนำ
หนังสือที่เกี่ยวข้อง