[Font : 15 ]
| |
การรู้อันตคาหิกทิฏฐิ ไม่เกี่ยวกับการรู้อริยสัจและการประพฤติพรหมจรรย์ |  

มาลุงกยบุตร ! อะไรเลา เปนสิ่งที่เราไมพยากรณ?

มาลุงกยบุตร ! ทิฏฐิวา "โลกเที่ยง" ดังนี้ เปนสิ่งที่เราไมพยากรณ.

มาลุงกยบุตร ! ทิฏฐิวา "โลกไมเที่ยง" ดังนี้ เปนสิ่งที่เราไมพยากรณ

มาลุงกยบุตร ! ทิฏฐิวา "โลกมีที่สิ้นสุด" ดังนี้ เปนสิ่งที่เราไมพยากรณ.

มาลุงกยบุตร ! ทิฏฐิวา "โลกไมมีที่สิ้นสุด" ดังนี้ เปนสิ่งที่เราไมพยากรณ.

มาลุงกยบุตร ! ทิฏฐิวา "ชีวะก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น" ดังนี้ เปนสิ่งที่เราไมพยากรณ.

มาลุงกยบุตร ! ทิฏฐิวา "ชีวะก็อันอื่น สรีระก็อันอื่น" ดังนี้ เปนสิ่งที่เราไมพยากรณ.

มาลุงกยบุตร ! ทิฏฐิวา "ตถาคตภายหลังแตตายแลว ยอมมีอีก" ดังนี้เปนสิ่งที่เราไมพยากรณ

มาลุงกยบุตร ! ทิฏฐิวา "ตถาคตภายหลังแตตายแลว ยอมไมมีอีก" ดังนี้เปนสิ่งที่เราไมพยากรณ.

มาลุงกยบุตร ! ทิฏฐิวา "ตถาคตภายหลังแตตายแลว ยอมมีอีกก็มีไมมีอีกก็มี" ดังนี้ เปนสิ่งเราไมพยากรณ.

มาลุงกยบุตร ! ทิฏฐิวา "ตถาคตภายหลังแตตายแลว ยอมมีอีกก็หามิได ไมมีอีก็หามิได” ดังนี้ เปนสิ่งที่เราไมพยากรณ.

มาลุงกยบุตร ! เพราะเหตุไร นั่นจึงเปนสิ่งที่เราไมพยากรณ ? เพราะเหตุวา นั่นไมประกอบดวยประโยชน ไมเปนเบื้องต้นแหงพรหมจรรย ไมเปนไปพรอมเพื่อความหนาย ความคลายกําหนัด ความดับ ความระงับ ความรูยิ่งความรูพรอม และนิพพาน. เหตุนั้น นั่นจึงเปนสิ่งที่เราไมพยากรณ.

มาลุงกยบุตร! อะไรเลา เปนสิ่งที่เราพยากรณ?

มาลุงกยบุตร! สัจจะวา "นี้ ความทุกข" ดังนี้ เปนสิ่งที่เราพยากรณ.

มาลุงกยบุตร! สัจจะวา "นี้ ความดับไมเหลือแหงทุกข" ดังนี้ เปนสิ่งที่เราพยากรณ

มาลุงกยบุตร! “นี้ ทางเดินใหถึงความดับไมเหลือแหงทุกข" ดังนี้ เปนสิ่งที่เราพยากรณ

มาลุงกยบุตร! เพราะเหตุไร นั่นจึงเปนสิ่งที่เราพยากรณ ? เพราะเหตุวา นั่น ประกอบดวยประโยชน นั่นเปนเบื้องตนแหงพรหมจรรย นั่นเปนไปพรอมเพื่อความหนาย ความคลายกําหนัด ความดับไมเหลือ ความระงับความรูยิ่ง ความรูพรอม และนิพพาน, เหตุนั้น นั่นเราจึงพยากรณ

มาลุงกยบุตร! เพราะเหตุนั้นในเรื่องนี้ เธอจึงถือเอาสิ่งที่เราไมพยากรณโดยความเปนสิ่งที่เราไมพยากรณ และสิ่งที่เราพยากรณโดยความเปนสิ่งที่เราพยากรณดังนี้เถิด.

มาลุงกยบุตร ! เมื่อทิฏฐิวา "โลกเที่ยง" ดังนี้ มีอยู, มันจะเปนการประพฤติพรหมจรรยขึ้นมาก็หามิได; เมื่อทิฏฐิวา "โลกไมเที่ยง" ดังนี้ มีอยู, มันจะเปนการประพฤติพรหมจรรยขึ้นมาก็หามิไดอีกนั่นเอง. มาลุงกยบุตร! เมื่อทิฏฐิวา โลกเที่ยง หรือวา โลกไมเที่ยง ก็ตาม มีอยู; ชาติก็ยังมี ชราก็ยังมีมรณะก็ยังมี, โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ทั้งหลาย ก็ยังมี, อันเปนสิ่งที่เราบัญญัติการกําจัดมันเสียในทิฏฐธรรมนี้.

มาลุงกยบุตร ! เมื่อทิฏฐิวา "โลกมีที่สิ้นสุด" ดังนี้มีอยู, มันจะเปนการประพฤติพรหมจรรยขึ้นมาก็หามิได; เมื่อทิฏฐิวา "โลกไมมีที่สิ้นสุด" ดังนี้มีอยู, มันจะเปนการประพฤติพรหมจรรยขึ้นมาก็หามิไดอีกนั่นเอง. มาลุงกบุตร ! เมื่อทิฏฐิวา โลกมีที่สิ้นสุด หรือวา โลกไมมีที่สิ้นสุด ก็ตามมีอยู; ชาติก็ยังมีชราก็ยังมี มรณะก็ยังมี, โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ทั้งหลายก็ยังมี, อันเปนสิ่งที่เราบัญญัติการกําจัดมันเสียในทิฏฐธรรมนี้.

มาลุงกยบุตร ! เมื่อทิฏฐิวา "ชีวะก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น" ดังนี้ มีอยู, มันจะเปนการประพฤติพรหมจรรยขึ้นมาก็หามิได; เมื่อทิฏฐิวา "ชีวะอันอื่นสรีระก็อันอื่น" ดังนี้ มีอยู, มันจะเปนการประพฤติพรหมจรรยขึ้นมาก็หามิไดอีกนั่นเอง. มาลุงกยบุตร ! เมื่อทิฏฐิวา ชีวะก็อันนั้นสรีระก็อันนั้น หรือวาชีวะก็อันอื่น สรีระก็อันอื่น ก็ตาม มีอยู, ชาติก็ยังมี ชราก็ยังมี มรณะก็ยังมี, โสกะปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ทั้งหลาย ก็ยังมี, อันเปนสิ่งที่เราบัญญัติการกําจัดมันเสียในทิฏฐธรรมนี้.

มาลุงกยบุตร ! เมื่อทิฏฐิวา "ตถาคตภายหลังแตตายแลวยอมมีอีก" ดังนี้ มีอยู, มันจะเปนการประพฤติพรหมจรรยขึ้นมาก็หามิได; เมื่อทิฏฐิวา "ตถาคตภายหลังแตตายแลว ยอมไมมีอีก" ดังนี้มีอยู, มันจะเปนการประพฤติพรหมจรรยขึ้นมาก็หามิไดอีกนั่นเอง. มาลุงกยบุตร ! เมื่อทิฏฐิวา ตถาคตภายหลังแตตายแลวยอมมีอีก หรือวา ตถาคตภายหลังแตตายแลวยอมไมมีอีก ก็ตามมีอยู; ชาติก็ยังมี ชราก็ยังมี มรณะก็ยังมี, โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัสอุปายาส ทั้งหลาย ก็ยังมี, อันเปนสิ่งที่เราบัญญัติการกําจัดมันเสียในทิฏฐธรรมนี้.

มาลุงกยบุตร ! เมื่อทิฏฐิวา "ตถาคตภายหลังแตตายแลว ยอมมีอีกก็มีไมมีอีกก็มี" ดังนี้มีอยู, มันจะเปนการประพฤติพรหมจรรยขึ้นมาก็หามิได; เมื่อทิฏฐิวา "ตถาคตภายหลังแตตายแลว ยอมมีอีกก็หามิไดไมมีอีกก็หามิได" ดังนี้มีอยู, มันจะเปนการประพฤติพรหมจรรยขึ้นมาก็หามิไดอยูนั่นเอง. มาลุงกยบุตร ! เมื่อทิฏฐิวา ตถาคตภายหลังแตตายแลวยอมมีอีกก็มีไมมีอีกก็มี หรือวา ตถาคตภายหลังแตตายแลวยอมมีอีกก็หามิไดไมมีอีกก็หามิได ก็ตาม มีอยู; ชาติก็ยังมีชราก็ยังมี มรณะก็ยังมี, โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ทั้งหลาย ก็ยังมี. อันเปนสิ่งที่เราบัญญัติการกําจัดมันเสียในทิฏฐธรรมนี้.

- ม. ม. 13/151/152, ม. ม. 13/150/151


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

  |     |   แจ้งข้อผิดพลาด / แนะนำ
หนังสือที่เกี่ยวข้อง