ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
1. พยัญชนะ : มนุษย์โดยพยัญชนะ : คือ มีใจสูง ; อีกความหมายหนึ่ง เหล่ากอของมนู.
2. อรรถะ : มนุษย์โดยอรรถะ :
2.1 ความหมายทางฝ่ายวัตถุหรือทางกาย : มีรูปร่างอย่างมนุษย์.
2.2 ความหมายทางจิตใจ : มีจิตใจอย่างมนุษย์; หมายความว่า มีจิตใจสูงกว่าธรรมชาติ; สามารถกำจัดปัญหาได้มากกว่าคน ธรรมดา; และเข้าใจว่าเป็นเพราะเหล่ากอแห่งมนูนั่นเอง. ถ้าจิตใจยังไม่สูงถึงระดับนี้ ก็เป็นคนธรรมดา เรียกว่า ชน แปลว่า เกิดมา.
3. ไวพจน์ : มนุษย์โดยไวพจน์ : คือ ปุคคล, ปุริส, โปส, ปชา, นร, บุรุษ, บุคคล, ชน, ประชาชน, คน, สัตว์ (ชนิดมนุษย์มิใช่เดรัจฉาน).
4. องค์ประกอบ : มนุษย์โดยองค์ประกอบ :
4.1 ประชุมแห่งรูปและนามหรือกายและจิต ชนิดที่ประกอบอยู่ด้วยสติปัญญา พอสมกับความหมายของคำว่ามนุษย์.
4.2 ประชุมแห่งขันธ์ 5.
4.3 ประชุมแห่งธาตุทั้ง 6 คือ ดิน, น้ำ, ไฟ, ลม, อากาศ, วิญญาณ.
5. ลักษณะ : มนุษย์โดยลักษณะ : มีลักษณะ :
5.1 สูงกว่าสัตว์เดรัจฉานทั้งทางกายและจิต.
5.2 สูงกว่าคนธรรมดาในทางจิต.
5.3 แห่งความพร้อมที่จะรู้ธรรมะในชั้นโลกุตตระ.
6. อาการ : มนุษย์โดยอาการ : มีอาการ :
6.1 แห่งผู้มีใจสูง ; ไม่หลงจมอยู่ในสิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งความหลง ; เช่นเรื่องกิน กาม เกียรติ เป็นต้น.
6.2 แห่งการก้าวหน้าไปสู่คุณค่าเบื้องสูงตามลำดับ.
6.3 แห่งความถูกต้องทางกาย วาจา จิต ตามอัตภาพ.
7. ประเภท : มนุษย์โดยประเภท : แบ่งโดยประเภทสอง :
กลุ่มที่ 1 :
1. ปุถุชน : คือ ผู้มีกิเลสหนาในระดับต่างๆ กัน.
2. พระอริยเจ้า : มีกิเลสเบาบางหรือหมดสิ้น.
กลุ่มที่ 2 :
1. ประกอบอยู่ด้วย มิจฉาทิฏฐิ.
2. ประกอบอยู่ด้วย สัมมาทิฏฐิ.
กลุ่มที่ 3 :
1. ยังไม่หลุดพ้น (ยังอยู่ในวิสัยโลกิยะ).
2. หลุดพ้นแล้ว (เป็นโลกุตตระ).
8. กฎเกณฑ์ : มนุษย์โดยกฎเกณฑ์ :
8.1 มนุษย์ต้องมีจิตใจสูง.
8.2 มนุษย์ต้องมีการกระทำอย่างมนุษย์ คือมีวิวัฒนาการไปหาจุดหมายปลายทาง.
8.3 มนุษย์ต้องไม่สร้างปัญหาที่เกิดจากความเห็นแก่ตัว.
8.4 มนุษย์ต้องบำเพ็ญประโยชน์ครบทั้งสาม คือ ประโยชน์ตน, ประโยชน์ผู้อื่น, ประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกัน (สาธารณประโยชน์).
9. สัจจะ : มนุษย์โดยสัจจะ :
9.1 ความเป็นมนุษย์ขึ้นอยู่กับความมีวิชชาหรือสติปัญญา และการกระทำของมนุษย์เอง.
9.2 มนุษย์ทุกคนมีเชื้อแห่งโพธิโดยเท่ากัน จะต่างกันตรงที่ได้รับการพัฒนา (เพาะปลูก) หรือไม่เท่านั้น.
9.3 จุดหมายปลายทางของมนุษย์ คือ โมกขะ หรือ นิพพาน.
9.4 มนุษย์หรือเทวดาหรือสัตว์เดรัจฉานและพฤกษาชาติทั้งปวง เป็นเพียงกระแสแห่งปฏิจจสมุปบาท.
9.5 มนุษย์ต้องมีมนุษยธรรมจึงจะเรียกว่า มนุษย์.
10. หน้าที่ : มนุษย์โดยหน้าที่ :
10.1 หน้าที่ต่อตัวเอง : คือ การกระทำเพื่อให้เกิดความรอดแก่ตนเองในทุกความหมาย.
10.2 หน้าที่ต่อผู้อื่น : คือ การกระทำในลักษณะที่เป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย แก่ชีวิตทุกระดับ.
10.3 หน้าที่ต่ออุดมคติของมนุษย์ คือ ต้องรักษาความเป็นมนุษย์ไว้ให้ได้ เหมือนเกลือรักษาความเค็ม.
11. อุปมา : มนุษย์โดยอุปมา : เปรียบเสมือน :
11.1 ปลาที่ดำผุดอยู่ในวงล้อมของอวนแห่งมาร คือ อวิชชา กิเลส ตัณหา.
11.2 ไก่ที่ถูกจับมาขังไว้ในกรงเดียวกันเพื่อนำไปฆ่า ก็ยังจิกกันเองอยู่นั่นเอง หามีความเมตตาแก่กันและกันไม่.
11.3 ผู้กำลังเดินทางไกลจากโลกิยะสู่โลกุตตระ.
11.4 นักธุดงค์ เดินทางเพื่อค้นคว้าหาสิ่งที่ดีที่สุดที่ตนควรจะได้.
12. สมุทัย : มนุษย์โดยสมุทัย :
12.1 สมุทัยของมนุษย์ : คือ ความอยากเป็นมนุษย์ของมนุษย์เอง.
12.2 สมุทัยทางฝ่ายกาย : คือ ธาตุหกมีบิดามารดาเป็นแดนเกิด.
12.3 สมุทัยทางฝ่ายจิต : มีผู้อบรมสั่งสอน และสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ให้การเกิด.
13. อัตถังคมะ : มนุษย์โดยอัตถังคมะ :
13.1 ทั้งฝ่ายกายและจิตมีการดับไปตามคราว เพราะขาดเหตุปัจจัย ตามธรรมดาของสังขารธรรมหรือสังขตธรรมทั้งหลาย.
13.2 ความเป็นมนุษย์โดยคุณค่าทางสติปัญญาดับไป เมื่อควบคุมความรู้สึกฝ่ายสูงไว้ไม่ได้; เพราะถูกอวิชชาหรือกิเลสตัณหาเข้าครอบงำ.
14. อัสสาทะ : มนุษย์โดยอัสสาทะ :
14.1 มนุษย์เป็นที่ตั้งแห่งอัสสาทะของมนุษย์ ซึ่งเป็นที่รักแก่กันและกัน เช่น บุตรเป็นที่ตั้งแห่งอัสสาทะของบิดามารดา เป็นต้น.
14.2 อัสสาทะของมนุษย์ :
1. โดยภายใน : มีตนเป็นอัสสาทะ คือไม่มีอะไรเป็นที่รักยิ่งกว่าตน.
2. โดยภายนอก : มี 3 ระดับ :
ก. มีกามธาตุ (สิ่งเป็นที่ตั้งแห่งกามทุกระดับ) สำหรับมนุษย์พวกกามาวจรภูมิ.
ข. มีรูปธาตุ (ความสุขที่เป็นรูปธรรมไม่เกี่ยวกับกาม) สำหรับมนุษย์พวกรูปาวจรภูมิ.
ค. มีอรูปธาตุ (ความสุขที่ไม่เกี่ยวกับรูปธรรมหรือเหนือรูปขึ้นไป) สำหรับมนุษย์พวกอรูปาวจรภูมิ.
15. อาทีนวะ : มนุษย์โดยอาทีนวะ :
15.1 ความทุกข์ทุกชนิดทุกระดับ ที่มนุษย์ทุกชนิดทุกระดับสร้างขึ้นเอง.
15.2 กิเลสที่เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ เป็นอาทีนวะของมนุษย์.
15.3 มนุษย์ผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรมเป็นอาทีนวะของสังคมมนุษย์; เพราะเป็นมนุษย์รกโลก.
16. นิสสรณะ : มนุษย์โดยนิสสรณะ :
นัยที่ 1 : เพื่อออกจากทุกข์ : คือ อริยมรรคมีองค์ 8.
นัยที่ 2: เพื่อออกจากความเป็นมนุษย์ : คือ การตัดอุปาทานว่าเป็นตัวตน ก็ถึงความว่างแห่งความมีตัวตน.
17. ทางปฏิบัติ : มนุษย์โดยทางปฏิบัติ :
นัยที่ 1 : เพื่อเข้าถึงความเป็นมนุษย์ที่ถูกต้อง : คือ ปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ 8.
นัยที่ 2 : เพื่อเข้าถึงความเป็นมนุษย์ผู้อยู่เหนือปัญหาทั้งปวง : คือ การปฏิบัติเพื่อตัดสังโยชน์หรืออุปาทานในระดับสุดท้าย.
18. อานิสงส์ : มนุษย์โดยอานิสงส์ : คือ โอกาสแห่งการศึกษาและการทำพระนิพพานให้แจ้ง.
19. หนทางถลำ : มนุษย์โดยหนทางถลำ :
นัยที่ 1 : เข้าไปสู่ความเกิดเป็นมนุษย์ (ตัวตนที่เป็นทุกข์) : เพราะอวิชชาที่ไม่รู้ว่าไม่ควรจะเกิด.
นัยที่ 2 : เข้าไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่ถูกต้อง : คือ คบสัตบุรุษหรือพระอริยเจ้า.
20. สิ่งที่ต้องเกี่ยวข้อง : มนุษย์โดยสิ่งที่ต้องเกี่ยวข้อง :
20.1 เพื่อการได้เป็นมนุษย์ : คือ ภวตัณหา ตามภูมิตามชั้นที่ตนปรารถนา.
20.2 เพื่อถึงยอดสุดของความเป็นมนุษย์ : คือ การตัดตัณหาอุปาทาน.
21. ภาษาคน - ภาษาธรรม : มนุษย์โดยภาษาคน - ภาษาธรรม :
21.1 ภาษาคน : หมายถึง คนที่พอสักว่าเกิดมาก็เป็นคน.
ภาษาธรรม : หมายถึง คนที่มีมนุษยธรรม.
21.2 ภาษาคน : คือ มิใช่สัตว์.
ภาษาธรรม : คือ สัตว์ชนิดหนึ่งโดยเท่ากัน.
ธรรมโฆษณ์ที่แนะนำให้อ่าน
1. ใครคือใคร ?
2. ธรรมะกับสัญชาตญาณ
3. ศีลธรรมกับมนุษยโลก